แบบฝึกหัดทบทวนที่ 2
1 ใครเป็นผู้ขอพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรกและมีเหตุผลอย่างไรและประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาเป็นอย่างไร
อธิบาย
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 7 แห่งราชวงศ์จักรีทรงมีพระราชประสงค์ที่จะพระราชทานรัฐธรรมนูญ
เพื่อเป็นหลักในการปกครองของประเทศให้แก่ประชาชนชาวไทย
2. แนวนโยบายของรัฐในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
ของรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2492 ได้กำหนดอย่างไร อธิบาย
หมวด
3 สิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย
มาตรา 36 บุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ในการศึกษาอบรม
เมื่อการศึกษาอบรมนั้นไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อหน้าที่ของพลเมืองตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาอบรมและไม่ขัดต่อกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรสถานศึกษา
สถานศึกษาของรัฐและของเทศบาล
ต้องให้ความเสมอภาคแก่บุคคลในการเข้ารับการศึกษาอบรมตามความสามารถของบุคคลนั้น ๆ
หมวด
4 หน้าที่ของชนชาวไทย
มาตรา
53 บุคคลมีหน้าที่รับการศึกษาอบรมชั้นประถมศึกษา
ภายในเงื่อนไขและวิธีการที่กฎหมายบัญญัติ
หมวด
5 แนวนโยบายแห่งรัฐ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
มาตรา
62
การศึกษาอบรมพึงมีจุดประสงค์ที่จะให้ชนชาวไทยเป็นพลเมืองดี
มีร่างกายแข็งแรงและอนามัยสมบูรณ์ มีความรู้ความสามารถที่จะประกอบอาชีพ
และมีจิตใจเป็นนักประชาธิปไตย
มาตรา
63 รัฐพึงส่งเสริมและบารุงการศึกษาอบรม
การจัดระบบการศึกษาอบรมเป็นหน้าที่ของรัฐโดยเฉพาะสถานศึกษาทั้งปวงย่อมอยู่ภายในการควบคุมดูแลของรัฐ
การศึกษาอบรมชั้นอุดมศึกษา
รัฐพึงจัดการให้สถานศึกษาดาเนินกิจการของตนเองได้ภายในขอบเขตที่กฎหมายบัญญัติ
มาตรา
64
การศึกษาอบรมชั้นประถมศึกษาในสถานศึกษาของรัฐและของเทศบาล
จะต้องจัดให้โดยไม่เก็บค่าเล่าเรียน รัฐพึงช่วยเหลือให้มีอุปกรณ์การศึกษาอบรมตามสมควร
มาตรา 65
รัฐพึงสนับสนุนการค้นคว้าในทางศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์
3.
เปรียบเทียบแนวนโยบายแห่งรัฐประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาของรัฐธรรมนูญฯ
พุทธศักราช 2517 และ พุทธศักราช 2521 เหมือนหรือต่างกันอย่างไร
อธิบาย
-แตกต่างกัน
ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาของรัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2517
1. สิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย
ในการศึกษาอบรม สถานศึกษาของรัฐและเทศบาลให้ความเสมอภาคแก่บุคคลในการศึกษาอบรม
ตามความสามารถของบุคคล
2. หน้าที่ของชนชาวไทย
บุคคลย่อมได้รับการศึกษาชั้นประถมศึกษาหรือการศึกษา
ขั้นมูลฐาน ตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
3. กำหนดแนวนโยบายแห่งรัฐ
จัดการศึกษาเพื่อพลเมืองดี มีร่างกายแข็งแรง อานามัยสมบูรณ์
มีความรู้ประกอบอาชีพและมีจิตใจเป็นประชาธิปไตย
4. ส่งเสริมและบำรุงการศึกษาอบรมการจัดระบบการศึกษาอบรมเป็นหน้าที่ของรัฐ
การศึกษาอบรมชั้นอุดมศึกษา ดาเนินได้ตามขอบเขตที่กฎหมายกำหนด
5. การจัดอบรมชั้นประถมศึกษา
ของรัฐและเทศบาล โดยไม่เก็บค่าเล่าเรียน
ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาของรัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2521
1. บุคคลย่อมมีเสรีภาพและมีสิทธิเสมอกันในการศึกษาภาคบังคับและการศึกษาอบรม
ไม่เป็นปรปักษ์และไม่ขัดต่อกฎหมายการศึกษา
2. เสรีภาพในวิชาการย่อมได้รับการคุ้มครองที่ไม่ขัดต่อหน้าที่พลเมือง
3. รัฐพึงส่งเสริมและบำรุงการศึกษาอบรม
ระบบการศึกษาอบรมเป็นหน้าที่ของรัฐและสถานศึกษาทั้งปวงอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ
4. การศึกษาอบรมชั้นอุดมศึกษา
รัฐกำหนดให้สถานศึกษาดาเนินการตามกิจการของ
ตนเองได้ภายในขอบเขตที่กฎหมายกำหนด
5. การศึกษาภาคบังคับในสถานศึกษาของรัฐและท้องถิ่น
จัดให้โดยไม่เก็บค่าเล่าเรียน
6. รัฐพึงช่วยเหลือผู้ยากไร้ให้ได้รับทุนและปัจจัยต่าง
ๆ ในการศึกษาอบรมและการฝึกอาชีพ
7. รัฐสนับสนุนการวิจัยในศิลปะและวิทยาการต่าง
ๆ และส่งเสริมการใช้วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยีในการพัฒนาประเทศ
8. รัฐพึงสนับสนุนและส่งเสริมเยาวชนของชาติ
ให้เป็นผู้ที่มีความสมบูรณ์ ทั้งทางร่างกาย
จิตใจ และสติปัญญา คุณธรรม
และจริยธรรม เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และเพื่อความมั่นคงของรัฐ
4.ประเด็นที่ 1 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2475-2490
ประเด็นที่ 2 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2490-2517
ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเหมือนหรือแตกตางกันอย่างไร
อธิบาย
แตกต่างกัน
ประเด็นที่ 1 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2475-2490
หมวด 2 สิทธิและหน้าที่ของชนชาวสยาม
มาตรา 14 ภายในบังคับแห่งกฎหมายบุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ภายในร่างกายเคหสถาน
ทรัพย์สิน การพูด การเขียน การโฆษณา การศึกษาอบรม การประชุมโดยเปิดเผย
การตั้งสมาคม การอาชีพ
ประเด็นที่ 2 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2490-2517
หมวด 3 สิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย
มาตรา 34 บุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ในการศึกษาอบรม
เมื่อการศึกษาอบรมนั้นไม่เป็นปรปักษ์ต่อหน้าที่ของพลเมืองตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาอบรม
และไม่ขัดต่อกฎหมายเกี่ยวกับการจัดสรรสถานศึกษา หมวด 4
หน้าที่ของชนชาวไทย
มาตรา 52 บุคคลมีหน้าที่รับการศึกษาอบรม
ชั้นประถมศึกษาภายในเงื่อนไขและวิธีการที่กฎหมายบัญญัติ
หมวด 5 แนวนโยบายแห่งรัฐ
มาตรา 59 รัฐพึงส่งเสริมและบำรุงการศึกษาอบรม
การจัดระบบการศึกษาอบรมเป็นหน้าที่ของรัฐโดยเฉพาะสถานศึกษาทั้งปวงย่อมอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของรัฐ
การศึกษาอบรมชั้นอุดมศึกษา รัฐพึงจัดการให้สถานศึกษาดาเนินกิจการของตนเอง
ได้ภายในขอบเขตที่กฎหมายบัญญัติ
มาตรา 60 การศึกษาอบรมชั้นประถมศึกษาในสถานศึกษาของรัฐจะต้องจัดให้โดยไม่เก็บค่าเล่าเรียน
รัฐพึงช่วยเหลือให้ได้มีอุปกรณ์การศึกษาอบรมตามสมควร
มาตรา 61 รัฐพึงสนับสนุนการวิจัย ในศิลปวิทยา และวิทยาศาสตร์
5.ประเด็นที่ 3 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2521-2534 ประเด็นที่ 4 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช
2540-2550 ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเหมือนหรือแตกตางกันอย่างไร
อธิบาย
เหมือนกันตรงที่ว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพและมีสิทธิเสมอกันในการศึกษาภาคบังคับและการศึกษาอบรม
ไม่เป็นปรปักษ์และไม่ขัดต่อกฎหมายการศึกษา
6. เหตุใดรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับจะต้องระบุในประเด็นที่รัฐจะต้องจัดการศึกษาอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง
อธิบาย
เพราะว่านับตั้งแต่ได้มีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยขึ้นและมีการปรับปรุงแก้ไขในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
ได้มีวิวัฒนาการเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่เสรีภาพ การศึกษาอบรม ให้กับเด็กและเยาวชนให้เป็นผู้มีความสมบรูณ์ทั้งทางร่างกาย
จิตใจ สติปัญญา คุณธรรมจริยธรรม โดยมีแนวทางในการจัดการศึกษา รัฐจะต้องจัดการศึกษาและสนับสนุนให้เอกชนจัดการศึกษาอบรมให้เกิดความรู้คู่คุณธรรมเช่นกัน
และจัดการศึกษาภาคบังคับให้เข้ารับการศึกษาอบรมโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย สาหรับการศึกษาภาคบังคับ
ต่อมาได้เพิ่มเติมจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไม่น้อยกว่า 12 ปี รัฐจะต้องจัดอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ พร้อมทั้งจัดให้มีกฎหมายการศึกษาแห่งชาติ
หรือเรียกชื่อว่า “พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติขึ้น”
7. เหตุใดรัฐจึงต้องกำหนด ‘บุคคลมีหน้าที่รับการศึกษาอบรมตามเงื่อนไขและวิธีการที่กฎหมายบัญญัติ’
จงอธิบายหากไม่ปฏิบัติจะเกิดอะไรขึ้น
กิจที่จะต้องทำด้วยความรับผิดชอบ[1] แต่เมื่อนำคำว่า “หน้าที่”
รวมกับคำว่า “ชนชาวไทย” เป็น
“หน้าที่ของชนชาวไทย” คณิน บุญสุวรรณ
ได้ให้ความหมายไว้ในหนังสือปทานุกรมศัพท์รัฐสภาและการเมืองไทย (ฉบับสมบูรณ์) ว่า
ภาระและความรับผิดชอบที่รัฐธรรมนูญกำหนดบังคับให้บุคคลซึ่งเป็นชนชาวไทยต้องปฏิบัติ
หรือกระทำให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย
เมื่อรัฐธรรมนูญกำหนดว่าการกระทำใดเป็นหน้าที่ของพลเมืองแล้ว
ถ้าหากผู้ใดไม่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติถือว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายและจะถูกลงโทษ
อย่างไรก็ตาม หน้าที่ของชนชาวไทย
ถือว่าเป็นภาระและความรับผิดชอบของประชาชนชาวไทยทุกคนที่ต้องยึดถือปฏิบัตินั่นเอง
8. การจัดการศึกษาที่เปิดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาหากเราพิจารณารัฐธรรมนูญมีฉบับใดบ้างที่ให้องค์กรส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมและถ้าเปิดโอกาสให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมมากขึ้นท่านคิดว่าอย่างไร
รัฐธรรมนูญ
ฉบับ พ.ศ. 2540 และฉบับ พ.ศ. 2550
ในเรื่อง “การจัดการศึกษาในท้องถิ่น” ว่า รัฐธรรมนูญที่รับรองสิทธิของชุมชนที่จะบำรุงรักษาศิลปวัฒนธรรม ประเพณี
ภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยให้มีการกระจายอำนาจ ในรูปแบบของการปกครองส่วนท้องถิ่น
ที่เป็นชุมชนประชาธิปไตย มีการพึ่งพาตัวเอง ปกครองดูแลตนเอง ผลักดันกันเอง
ในสามส่วนนี้อยากให้ครูในท้องถิ่นและผู้มีส่วนร่วมในการปกครองส่วนท้องถิ่นช่วยกันผลักดัน
และใช้รัฐธรรมนูญให้เกิดประโยชน์กับท้องถิ่นให้มากที่สุด
เรื่องการบริหารจัดการศึกษาในท้องถิ่น มีข้อคิดอยู่ว่า จะทำอย่างไรถึงจะนำคน เงิน
ระบบ ไปใช้ร่วมกันให้ได้ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่คนในท้องถิ่นจริงๆ
ขอเสนอให้ปรับแผนโดยกำหนดให้ อปท.
ร่วมกันบริหารและจัดการศึกษาในรูปสหการ คือความร่วมมือร่วมใจของคนในชุมชน
ไม่ว่าชุมชนเมืองหรือชุมชนท้องถิ่นจะต้องเกิดขึ้นจากทุกภาคส่วน
9. เหตุใดการจัดการศึกษา
รัฐต้องคุ้มครองและพัฒนาเด็กและเยาวชน ส่งเสริมความเสมอภาคทั้งหญิงและชาย พัฒนาความเป็นปึกแผ่นของครอบครัว
และความเข้มแข็งของชุมชนสังเคราะห์ ผู้ยากไร้ ผู้พิการหรือทุกสภาพและผู้ด้อยโอกาส
จงอธิบาย
บทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พ.ศ. ๒๕๕๐
คณะอนุกรรมาธิการด้านเด็ก และเยาวชน
ฯ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ
มาตรา ๕๒ เด็กและ เยาวชน
มีสิทธิในการอยู่รอดและได้รับการพัฒนาด้านร่างกาย จิตใจ และสติ ปัญญา
ตามศักยภาพในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชน
เป็นสำคัญ เด็ก เยาวชน สตรี
และบุคคลในครอบครัวมีสิทธิได้รับความคุ้มครองจากรัฐให้ปราศจากการใช้ความรุนแรงและการปฏิบัติอันไม่เป็นธรรม
ทั้งมีสิทธิได้รับการบำบัดฟื้นฟูในกรณีที่มีเหตุดังกล่าวการแทรกแซงและการกำจัดสิทธิของเด็กเยาวชน
และบุคคลในครอบครัว จะกระทำมิได้ เว้นแต่อาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
เฉพาะเพื่อสงวนและรักษาไว้ซึ่งสถานะของครอบครัวหรือประโยชน์สูงสุดของบุคคลนั้นเด็กและเยาวชนซึ่งไม่มีผู้ดูแล
มีสิทธิได้รับการเลี้ยงดูและการศึกษาอบรมที่เหมาะสมจากรัฐ
10. ผลการจัดการศึกษาที่ผ่านมาของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
มีผลต่อการพัฒนาประเทศอย่างไรบ้าง อธิบาย
รัฐธรรมนูญไทยระบุว่าประเทศไทยมีรูปแบบรัฐเป็นประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ
และปกครองในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา (เขียนว่า
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข)
กำหนดให้มีการแบ่งแยกอำนาจระหว่างอำนาจนิติบัญญัติ บริหารและตุลาการ ปัจจุบัน
ประเทศไทยใช้ระบบสองสภา แตกต่างจากในอดีตที่ใช้ระบบสภาเดี่ยว รัฐธรรมนูญแต่ละฉบับกำหนดให้ผู้แทนราษฎรมาจากการเลือกตั้งและการแต่งตั้งแตกต่างกันไป
เช่นเดียวกับพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น